ทำความเข้าใจอัลกอริทึม AI: 5 ความลับที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบบัญชีให้ดียิ่งขึ้น

อัลกอริทึม AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบบัญชีได้อย่างไร?
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อัลกอริทึม AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการตรวจสอบบัญชีด้วย หัวใจสำคัญของกระบวนการตรวจสอบบัญชีคือความแม่นยำ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการเงินที่ธุรกิจใช้ในการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม "KPMG Clara AI" ที่พัฒนาโดย KPMG ร่วมกับ Microsoft แสดงให้เห็นถึงการนำ AI มาปรับใช้ในการตรวจสอบ พร้อมประโยชน์ที่ล้ำลึก
การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลด้วยความเร็วสูง
ทุกวันนี้ ข้อมูลทางการเงินถูกสร้างขึ้นในปริมาณที่มหาศาล อัลกอริธึม AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยการทำงานกับฐานข้อมูลที่กว้างใหญ่ เช่น การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดจาก 100% ของรายการแทนการเลือกตัวอย่างแบบเดิม นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยทำให้ผู้ตรวจสอบสามารถตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่มนุษย์อาจจะมองข้ามไป
ยกตัวอย่างการทำงานของ KPMG ที่ใช้ระบบ "transaction scoring" ช่วยจัดลำดับความเสี่ยงของธุรกรรมแต่ละรายการ รวมถึงการชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่คุณควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เทคนิคนี้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถทำงานได้เร็วกว่าความคิดของมนุษย์ และในหลายกรณี มีความแม่นยำที่ดีกว่า
ประเมินความเสี่ยงจุดเฉพาะด้วยความแม่นยำแม่สูง
AI ยังสามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการทำนายธุรกรรมที่เสี่ยงต่อการฉ้อโกงหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องทางการเงิน ด้วยการใช้ predictive analytics ที่ทำงานร่วมกับฐานข้อมูลที่มีการบันทึกไว้ในอดีต ระบบนี้สามารถตรวจสอบว่ามีความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงหรือไม่ และช่วยในกระบวนการตัดสินใจให้ทีมตรวจสอบ
เมื่อลงลึกในข้อมูล สำคัญกว่าคือการมีระบบที่ช่วยจับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่อาจจะถูกมองข้าม ซึ่งอาจนำไปสู่การค้นพบที่สำคัญยิ่ง ถ้าไม่ทันทำความเข้าใจ อาจจะเกิดภาวะที่เรียกว่าการละเลยความเสี่ยง ที่เกิดจากการใช้วิธีการตรวจสอบแบบดั้งเดิมที่อาจไม่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงได้ทันตามเวลาของข้อมูลการเงิน
การตรวจสอบระบบควบคุมภายในแบบอัตโนมัติ
พอพูดถึงการตรวจสอบภายใน AI ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยอัลกอริทึม AI สามารถแทนที่วิธีการเลือกตัวอย่างแบบมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ robotic process automation (RPA) ช่วยให้การดำเนินการตรวจสอบสามารถทำได้ตลอดระยะเวลาที่ต้องการ แล้วยังสามารถลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์ได้สูงสุดถึง 90%
เปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้หมายถึงแค่การทำให้งานง่ายขึ้น แต่หมายถึงการรับประกันว่าข้อมูลที่ใช้อยู่จะมีความถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งทำให้ผู้ตรวจสอบรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นในการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูล
การสร้างเอกสารควบคุมตรวจสอบอัตโนมัติ
การนำ Generative AI มาช่วยในงานเอกสารก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ อัลกอริทึมนี้สามารถแปลงเอกสารจากกระดาษให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การจัดการข้อมูลด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังลดเวลาในการจัดเตรียมเอกสารสำหรับการ audit ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ การสร้างเอกสารตรวจสอบที่ตรงตามเกณฑ์ก็จะสะดวกมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนทุกสีของกรรมการไปเป็นภาพดิจิทัล หรือการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนการตรวจสอบ ถือว่าเป็นการลงทะเบียนสนามรบให้เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ผู้ตรวจสอบสามารถมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญแทน
ผ่านทุกหน้าที่ในการตรวจสอบบัญชีที่มีความเข้มข้น AI ได้นำเสนอความสามารถที่ไม่สิ้นสุดในการเพิ่มความแม่นยำ พร้อมทั้งทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งเหล่านี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่ออนาคตของการตรวจสอบบัญชีอย่างแท้จริง
บูรณาการเทคโนโลยีคลาวด์และระบบอัจฉริยะอื่น ๆ
การนำเทคโนโลยีคลาวด์มาผนวกกับอัลกอริธึม AI ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการตรวจสอบบัญชี KPMG และ Microsoft ได้ร่วมมือกันพัฒนาโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี Microsoft 365 เพื่อช่วยปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ AI ในการสร้างคำอธิบายกระบวนการทำงานต่าง ๆ อัตโนมัติ
ความสามารถในการทำงานร่วมกันในระบบคลาวด์
ด้วยการทำงานในระบบคลาวด์ นักบัญชีสามารถเข้าถึงข้อมูล เอกสาร และรายละเอียดต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา การทำงานแบบเรียลไทม์ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมตรวจสอบและลดความเสี่ยงจากการสื่อสารผิดพลาด
ตัวอย่างเช่น การเข้าถึงเอกสารและข้อมูลที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ตรวจสอบสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลมากขึ้น และทำให้กระบวนการตรวจสอบมีคุณภาพที่ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ระบบที่บูรณาการเหล่านี้ยังช่วยให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การปฏิบัติตามกฎระเบียบเชิงรุก
อัลกอริทึม AI ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและช่วยในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านการตรวจสอบบัญชีที่อาจต้องเผชิญกับความยุ่งยากด้านข้อกำหนดและกฎระเบียบหลายประการ
การตรวจสอบความสอดคล้อง
AI ช่วยให้บริษัทสามารถเฝ้าระวังการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการติดตามธุรกรรมที่น่าสงสัยหรือไม่ตรงตามที่กำหนด จึงทำให้ลดความเสี่ยงจากการถูกลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้
โดยการใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ AI สามารถคาดการณ์สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและจัดเตรียมข้อมูลที่สำคัญในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การมีเครื่องมือที่ช่วยให้ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นเช่น บริการ AI Accountant สามารถตอบคำถามและเข้าถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยจัดการกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การปรับปรุงประสิทธิภาพ
การเปรียบเทียบระหว่างเวลาและความแม่นยำเป็นสิ่งที่สำคัญมากในหน้าที่ของนักบัญชี โดยการใช้ AI ทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการตรวจสอบ
สถิติและผลการวิจัย
การใช้ AI ในการตรวจสอบบัญชีพบว่าสามารถช่วยลดเวลาในการทำงานได้ ซึ่งมากกว่าการทำงานแบบดั้งเดิม โดยมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าบริษัทที่ใช้ AI ในการตรวจสอบบัญชีสามารถลดระยะเวลาในการตรวจสอบได้ถึง 50% รวมถึงมีความแม่นยำที่เหนือกว่ามาก
สิ่งนี้ทำให้ผู้ตรวจสอบสามารถมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกซึ้งและการสื่อสารผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการวิเคราะห์นั้น
ตัวอย่างการใช้งานจริง
มีหลายองค์กรขนาดใหญ่ที่ได้นำ AI มาใช้ในการตรวจสอบบัญชี เช่น การใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลงบการเงิน บอลโยประสบการณ์ใกล้เคียงที่สุดกับการตรวจสอบที่แม่นยำและครอบคลุม โดยองค์กรเหล่านี้สามารถจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ดีและมีข้อมูลการตัดสินใจที่เชื่อถือได้
สรุป
การนำอัลกอริทึม AI มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการตรวจสอบบัญชีไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาด แต่ยังทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้น การมีการสนับสนุนจากระบบและเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น บริการ AI Accountant ยังช่วยเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อนาคตของการตรวจสอบบัญชีจะถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย การรวมพลังของ AI มีกระบวนการตรวจสอบที่มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้นและมีส่วนช่วยในการเติบโตอย่างยั่งยืน
มีแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ AI ในการบัญชี รวมถึงการสำรวจวิธีที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถส่งเสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพนี้ ซึ่งเราเชิญชวนคุณให้ศึกษาเพิ่มเติม!